วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561

ปัญหาพฤติกรรมในลูกสุนัข

                         ปัญหาพฤติกรรมในลูกสุนัข


ปัญหาพฤติกรรมในลูกสุนัข

ปัญหาพฤติกรรมในลูกสุนัข

พฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนาในสุนัขช่วงอายุระหว่างวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ได้แก่ การกัดข้าวของเสียหาย ชอบกัดเล่นสิ่งต่างๆ หรือการที่สุนัขชอบกระโดดพุ่งใส่ผู้คน โดยพฤติกรรมเหล่านี้จะจัดว่าเป็นพฤติกรรมปกติในช่วงวัยเด็กแต่ผู้คนทั่วไปมักจะไม่ชอบใจกับพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะฉะนั้นถ้าหากพบเจอพฤติกรรมเหล่านี้เร็วมากเท่าใดก็จะยิ่งดีเพราะจะได้ทำการวางแผนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ทันในช่วงที่สุนัขยังสามารถสอนได้ง่าย
พันธุกรรมจัดเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่ง โดยพฤติกรรมที่ลูกสุนัขแสดงจะมีความคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีการถ่ายทอดพฤติกรรมที่เฉพาะแก่สายพันธุ์นั้น เช่น ความดื้อ หรือ ปัญหาเวลาทำกิจกรรมในสายพันธุ์ที่ใช้แรงงาน แต่อย่างไรก็ตามปัญหาพฤติกรรมส่วนมากนั้นมักจะพบในสุนัขที่เลี้ยงในเมือง เนื่องจากโอกาสในการพาออกมาออกกำลังกายข้างนอกบ้านนั้นค่อนข้างถูกจำกัด

อาการและประเภท

  • การกัดข้าวของเสียหาย
เริ่มแรกสุนัขจะเริ่มจากการกัดเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านต่อหน้าสมาชิกในบ้าน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่โดนจับได้หรือว่าโดนทำโทษ สุนัขจะเริ่มแอบทำลายข้าวของลับหลังในขณะที่สมาชิกในบ้านไม่เห็น
  • กัดเล่นกัน
การเล่นปะทะกันของสุนัขจะเริ่มต้นจากสมาชิกในบ้านเป็นคนเริ่มเล่นก่อน แต่หลังจากนั้นสุนัขก็จะเริ่มได้ด้วยตัวของสุนัขเอง ซึ่งการเล่นแบบนั้นถือว่าเป็นปัญหาพฤติกรรมเนื่องจากฟันน้ำนมของลูกสุนัขนั้นมีความแหลมคมมากซึ่งอาจทำให้เกิดบาดแผลขณะเล่นได้ บางครั้งอาจจะพบว่ามีการขู่ หรือเห่า แต่การขู่และเห่านี้จะแตกต่างกับเวลาที่สุนัขแสดงออกว่ากลัวหรือมีความก้าวร้าว
  • กระโดดพุ่งเข้าหาผู้คน
การกระโดดเข้าหาคนหรือการวางฝ่าเท้านั้นจัดเป็นพฤติกรรมการทักทายเมื่อสุนัขมีความตื่นเต้น แต่ก็สามารถพบได้ในลูกสุนัขที่ต้องการความสนใจหรือต้องการสิ่งของที่อยู่ในมือของเจ้าของ
  • กระโดดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของ
ลูกสุนัขที่กระโดดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของนั้นส่วนมากต้องการที่จะได้ของกินหรือของเล่นเพื่อเอามาเคี้ยวเล่น แต่ในบางครั้งอาจจะกระโดดขึ้นในขณะที่เล่น เพื่อต้องการความสนใจ หรือต้องการพักผ่อน

สาเหตุ

ปัญหาพฤติกรรมในลูกสุนัขนั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติในลูกสุนัข แต่บางสาเหตุอาจส่งผลทำให้เกิดพฤติกรรมที่แย่ขึ้น โดยสาเหตุส่วนมากเกิดมาจากการขาดความเอาใจใส่ ควบคุม ฝึกฝน หรือ การออกกำลังกาย ซึ่งปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อพฤติกรรมที่กล่าวมามีดังนี้
การกัดทำลายข้าวของ
  • สารอาหารไม่เหมาะสม หรือปริมาณอาหารที่ได้รับไม่เพียงพอ
  • มีหนูหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กชนิดอื่นอยู่ตามผนังหรือพื้น
  • มีเศษอาหารตกหล่นอยู่บนพรมหรือเฟอร์นิเจอร์
  • ขาดแคลนของเล่นหรือของเล่นไม่น่าสนใจ
  • พบว่าสุนัขมีพฤติกรรมการหนี
การเล่นกัดกัน
  • มีการหยอกล้อเล่นกัน เช่น มีการสนับสนุนให้ลูกสุนัขกัด
  • มีช่วงเวลาการคุมขังที่นานเกินไป โดยเฉพาะในกรงที่มีขนาดเล็ก
  • ลูกสุนัขมีการทักทายที่ตื่นเต้นมากเมื่อมีแขกมาที่บ้านหรือกับสมาชิกในครอบครัว
กระโดดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของ
  • ขาดแคลนของเล่นหรือของเล่นไม่น่าสนใจ
  • มีความต้องการอาหารหรือสิ่งของที่อยู่บนเฟอร์นิเจอร์
  • มีสถานที่พักผ่อนไม่เพียงพอหรือบริเวณพื้นนอนไม่สบาย

    การวินิจฉัย

    เจ้าของแต่ละท่านควรที่จะเล่าถึงประวัติสุขภาพของสุนัขให้สัตวแพทย์ฟังอย่างละเอียด ซึ่งจะประกอบด้วย อาการเริ่มต้น พบตั้งแต่เมื่อไหร่และมีอาการอย่างไร คำถามส่วนมากที่สัตวแพทย์จะซักถามมักจะเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมของสุนัข มีสมาชิกในบ้านเพิ่มเข้ามาบ้างไหม ส่วนการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ มักจะไม่นิยมทำเว้นแต่ถ้ามีโรคอื่นเกิดแทรกซ้อนขึ้น ณ ขณะนั้น

    การรักษา

    สัตวแพทย์จะมีการพิจารณาถึงวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีความหลากหลาย เช่น การให้รางวัลหรือการทำโทษ แต่จะไม่มีการแนะนำให้เจ้าของตี เขย่าต้นคอ ทุบจมูก กลิ้ง หรือบีบริมฝีปากเข้ากับฟันเพื่อหยุดการกัดกัน ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะยิ่งทำให้ปัญหาพฤติกรรมที่มีอยู่ยิ่งแย่ลงและอาจกระตุ้นให้เกิดอาการหวาดระแวงและก้าวร้าวได้
    การออกกำลังกายอย่างหนักจะช่วยลูกสุนัขได้มากในสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรมชนิดนี้ อีกทั้งเวลาที่เจ้าของทำการเล่นกับลูกสุนัขเจ้าของควรที่จะทำให้ลูกสุนัขรู้ว่าเจ้าของนั้นเป็นคนควบคุมเขา ถ้าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผลอาจจะต้องมีการใช้ยาเข้ามาช่วยในการรักษา

  • คำแนะนำเพิ่มเติมจากสัตวแพทย์

    ทำให้ลูกสุนัขหยุดการกัดทำลายข้าวของ
    • ทำการทดลองให้ของเล่นลูกสุนัขอย่างหลากหลายแล้วหาสิ่งที่ลูกสุนัขสนใจ ซึ่งส่วนมากจะเป็นสิ่งของที่มีอาหารเป็นส่วนประกอบ
    • นำสิ่งของวางไว้ในที่ที่ลูกสุนัขไม่สบายหยิบได้ถึง
    • ปิดประตูกั้นไว้เพื่อไม่ให้ลูกสุนัขเข้ามาในพื้นที่ต้องห้าม
    • ขัดขวางการกัดเคี้ยวด้วยคำสั่ง ไม่
    เล่นกัดกัน
    • ควรให้ลูกสุนัขได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ
    • ใช้ของเล่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของลูกสุนัขขณะมีการเล่นกัดกัน
    • อาจมีการใช้สายจูงเพื่อบังคับได้
    • หลีกเลี่ยงการเล่นที่กระตุ้นให้สุนัขมีพฤติกรรมการกัด
    • นำลูกสุนัขไปเข้าโรงเรียนสอนลูกสุนัขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • มีการฝึกลูกสุนัขให้นั่งก่อนที่จะให้อาหาร ของเล่น หรือความสนใจ
    • เมินเฉยต่อพฤติกรรมที่เอาแต่ใจของลูกสุนัข เช่น การเห่า การหอน การเอาฝ่าเท้ามาวางเพื่อเรียกร้องความสนใจ
    การกระโดดเข้าหาคน
    • มีการสอนให้สุนัขนั่งตามคำสั่ง
    • หลีกเลี่ยงการเล่นที่กระตุ้นให้สุนัขมีการกระโดด
    • เมื่อสุนัขกระโดดจะต้องเบี่ยงเบนความสนใจของสุนัขโดยการใช้เสียงดังและแหลม
    • สามารถใช้สายจูงเพื่อจับบังคับได้
    กระโดดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของ
    • ไม่ควรนำอาหารหรือสิ่งของที่ดึงดูดความสนใจของลูกสุนัขวางไว้บนเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของ
    • ทำการจำกัดบริเวณลูกสุนัขถ้าหากมีการทำผิด
    • จัดหาของเล่นที่น่าสนใจ และมีผลต่อจิตใจของลูกสุนัข
    • ความเป็นอยู่และการจัดการ

      เจ้าของจำเป็นที่จะต้องติดตามอาการขอลุกสุนัขกับสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำเพื่อที่จะได้จัดหาหรือปรับเปลี่ยนโปรแกรมการรักษาให้เหมาะสมกับลูกสุนัข การพยากรณ์โรคส่วนมากมักจะดี เนื่องจากเมื่อลูกสุนัขอายุมากขึ้นพฤติกรรมก็จะลดลง ถ้าหลังจากการที่เรามีการปรับพฤติกรรมลูกสุนัขแล้ว แต่ลูกสุนัขยังคงแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีอยู่ สัตวแพทย์จะแนะนำให้มีการปรับโปรแกรมพฤติกรรมให้มีการฝึกฝนพฤติกรรมที่เข้มงวดมากขึ้น
    • เเหล่งที่มาhttps://www.honestdocs.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เทคนิคการเลี้ยงร็อตไวเลอร์

                          เทคนิคการเลี้ยงร็อตไวเลอร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ( Rottweiler) หลายๆ บ้านที่ได้ฟังอาจจะไม่ให้ความน...